โมเบียสคอยล์ (Mobius Coil)
คือโครงขดลวดรูปแบบพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Mobius Strip (แถบโมเบียส) ซึ่งเป็นวัตถุเรขาคณิตที่มีเพียงด้านเดียวและขอบเดียว โดยเมื่อแปลงแนวคิดนี้สู่โลกของพลังงานและฟิสิกส์ เราได้ “ขดลวดที่สนามแม่เหล็กและไฟฟ้าหมุนในรูปแบบต่อเนื่องไม่รู้จบ”
• แนวคิด “Mobius Strip” เริ่มต้นจากนักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมันชื่อ August Ferdinand Mobius ในปี ค.ศ. 1858
• การประยุกต์ Mobius Strip เข้ากับการพันขดลวด (coil) เพื่อสร้างสนามพลังงานแบบเฉพาะ เกิดขึ้นในวงการวิศวกรรมพลังงานทางเลือกและการบำบัด ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20
• ผู้ที่มีบทบาทในการพัฒนาแนวคิด Mobius Coil เพื่อจุดประสงค์ทางพลังงาน/วิญญาณ คือผู้สร้างอุปกรณ์ Orgonite, เครื่อง Scalar และนักวิจัยในกลุ่มพลังงานเสรี (Free Energy Community)
โครงสร้างของ Mobius Coil
• ใช้สายไฟหรือทองแดง 1 หรือ 2 เส้น → บิดแบบสวนทางกันเป็นลักษณะเกลียวซ้าย–ขวา
• พันรอบวัตถุ หรือล้อมเป็นวง → แล้วปิดปลาย
• สามารถต่อเข้ากับแหล่งพลังงานความถี่ต่ำ (เช่น 7.83 Hz, 432 Hz, 528 Hz)
โครงสร้างนี้ทำให้ “สนามแม่เหล็กไฟฟ้าแต่ละทิศทางหักล้างกัน”
→ เหลือไว้เพียง “สนามพลังนิ่ง–ลึก–ไร้ทิศทาง” ที่สามารถทะลุทะลวงทุกสิ่ง
⇐------⇒
⇒------⇐
⇐------⇒
หลักการทำงานเชิงฟิสิกส์
Mobius Coil ไม่ได้ทำงานเหมือนขดลวดไฟฟ้าทั่วไป ที่สร้างสนามแม่เหล็กเพียงทิศเดียว แต่ :
1. Standing Wave Resonance (คลื่นตั้งลำ)
• เมื่อนำกระแสไฟเข้าไปในโครงสร้าง Mobius → คลื่นไฟฟ้าในแต่ละทิศทางจะ "หักล้าง" กันในเชิงคลื่น (Destructive Interference)
• แต่สิ่งที่เหลืออยู่คือ “สนามที่คงอยู่กับที่” (Standing Scalar Field) คล้าย Zero Point Field
2. Scalar Wave Generation
• การหักล้างของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าจากลวดสองเส้นที่สวนทางกัน = ทำให้เกิดคลื่นตามยาว (Scalar Longitudinal Waves)
• คลื่นนี้ไม่แผ่แบบลำแสง ไม่ลดกำลังเมื่อผ่านสสาร และสามารถสื่อสารกับพลังงานของเซลล์และจิตใจได้
3. Torsion Field Dynamics
• โครงสร้างที่บิดคล้ายเกลียว → กระตุ้นให้เกิด "สนามทอร์ชั่น" (Torsion Field)
→ สนามพลังที่หมุนวนด้วยแรงมุม (angular spin)
• สนามนี้สื่อสารกับโครงสร้างของ DNA, น้ำ, และคลื่นชีพจรของร่างกายมนุษย์
ทำไม Mobius Coil จึงทรงพลัง?
• ไม่มีขั้วตายตัว → พลังงานหมุนวนรอบแกน
• ปล่อยคลื่นที่ล่องลอยอยู่ในสนามโดยไม่ใช้แรงส่ง
• สื่อสารกับความตั้งใจของจิต (Intention-Encoded Wave)
• เหมาะอย่างยิ่งในการใช้ ประทับความถี่ ลงในวัตถุ / พื้นที่ / น้ำ
การสร้าง Mobius Coil (เบื้องต้น)
1. ใช้ สายทองแดงหรือสายไฟ ขนาดเล็ก–กลาง
2. ตัดเป็นเส้นคู่ยาวเท่ากัน (หรือเส้นเดียวยาว แล้วพับครึ่ง)
3. บิดเส้นคู่เข้าด้วยกันแบบ Twist (สวนทางกัน)
4. พันรอบชิ้นงานหรือทำเป็นวงกลม ปิดปลายทั้งสอง
5. ถ้าต่อกับพลังงาน → ใช้ไฟความถี่ต่ำ (3.6, 7.83, 528Hz ฯลฯ)
❝ ยิ่งจำนวนรอบมาก และยิ่งบิดสม่ำเสมอ → สนามยิ่งคงที่และลึก ❞
การใช้งาน
ประเภทการใช้งาน
Orgonite
เครื่อง Scalar
Healing Plate
เครื่อง Med Bed
ฝังในน้ำพลังงาน
รายละเอียด
ฝังในเรซิ่น เพื่อกระตุ้นพลัง orgone และปล่อย scalar field
ใช้เป็นเสาอากาศ scalar ใน Rife หรือ Radionic Device
แปะใต้จานน้ำ, เตียง, ตัว → เพื่อปรับคลื่นชีพจรของร่างกาย
ฝังใต้แท่นรักษา, เพื่อเปล่งคลื่นเรโซแนนซ์สู่ร่างกาย
เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างของโมเลกุลน้ำแบบ quantum structured
เปรียบเทียบพลัง Mobius Coil vs. Tensor Ring
มิติเปรียบเทียบ
คลื่นที่ปล่อย
การกระจายพลัง
ความเหมาะสมใช้งาน
การใช้งานร่วมกันได้
Mobius Coil
Scalar Standing Wave
(แบบโฟกัสจุด)
พุ่งออกเป็นคลื่นตรงหรือข้ามมิติ
เน้นงานเครื่อง–เครื่องมือ (Device)
ใช้ร่วมกับ Tensor, Rodin, Orgonite ได้)
Tensor Ring
Scalar Ring Field
(แบบล้อมรอบจุดศูนย์)
ครอบคลุมเป็นวงแหวนรอบจุดศูนย์
เน้นการสวมใส่
วางในสนามพลังชีวิตโดยตรง
ใช้ (เสริมกันได้ดีในการสร้าง Healing Platform)
สรุป:
Mobius Coil คือ “ขดลวดพลังเรขาคณิต” ที่ปล่อยคลื่นสเกล่าร์แบบโฟกัสนิ่ง
→ สร้างจากหลักคลื่นย้อนกลับ
→ ปลดปล่อยพลังไร้ทิศที่เชื่อมกับสนามชีวิต–จิตวิญญาณได้ลึก
→ เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ยอดนิยมในงาน scalar, radionics, orgone และเครื่องบำบัดพลังงานขั้นสูง
หลักการทำงานของ Mobius Coil และ Tensor Ring แม้จะคล้ายกันในแง่ที่ “ทั้งคู่สร้างสนามพลังงานละเอียด (subtle energy field)” และสามารถปล่อยคลื่น scalar ได้ แต่แก่นของกลไกพลังงานนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งในมิติของฟิสิกส์, เรขาคณิต, และผลลัพธ์ที่ได้
เปรียบเทียบหลักการทำงาน : Mobius Coil vs. Tensor Ring
มิติเปรียบเทียบ
ต้นกำเนิดแนวคิด
โครงสร้าง
กลไลพลังงาน
ลักษณะคลื่น
สนามที่เกิดขึ้น
ขึ้นกับไฟฟ้าไหม
วิธีปลดปล่อยพลังงาน
เหมาะกับการใช้งาน
การสื่อสารกับจิต
ความสัมพันธ์กับ DNA
Mobius Coil
พัฒนาจากคณิตศาสตร์
Mobius Strip (1858)
ลวดคู่บิดสลับทิศทาง
→ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหักล้างกัน
หักล้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (EMF)
→ เหลือ Standing Scalar Wave
คลื่นตามยาว (Longitudinal Scalar)
แบบโฟกัสตรงจุด
จุดศูนย์กลางคมชัด,
ปล่อยคลื่นตรงออกจากแกนกลาง
ต้องการกระแสไฟฟ้า หรือการชาร์จสนาม
จากคลื่นสวนทิศทางที่หักล้างกัน
→ เหลือ "พลังนิ่ง"
เครื่องจักรพลังงาน,
scalar transmitter, orgonite coil
สื่อกับ “คลื่นตั้งใจ”
(intention wave) ชัดเจนมาก
คลื่นแบบสลับสวน = ใกล้คลื่นชีพจร
(pulse) และการส่งข้อมูล
Tensor Ring
ค้นพบโดย Slim Spurling (1991)
จากการบิดลวดตาม Cubit
ลวดทองแดงบิดเดียว/คู่/ซ้อน
บิดตามความยาว Cubit
สร้าง Null Field จากเรโซแนนซ์
ของโครงสร้างเชิงเรขาคณิต
คลื่น Scalar ที่วนกลับหาตัวเองรอบวง
→ สนามเรโซแนนซ์นิ่ง
สนามแบบวงแหวน,
ล้อมรอบและสมดุลทุกทิศทาง
ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า – ทำงานด้วยโครงสร้างล้วน ๆ
จากเรโซแนนซ์ของความยาว Cubit
+ การบิดลวด
การสวมใส่, วางในสนามชีวิต,
พิมพ์คลื่นในน้ำ, grid healing
สื่อกับ “สนามชีวิต”
และคืนจังหวะของสนามชีวภาพ
ความยาว Cubit = คลื่นเรโซแนนซ์
ตรงกับสนามของ DNA
ถ้านำ Mobius Coil มาฝังใน Tensor Ring หรือ Orgonite → จะเกิดการผสานของสนามพลังสองรูปแบบ :
• Mobius = แหล่งส่งเจตนา/ข้อมูล
• Tensor = แหล่งคงสนามและสร้างความกลมกลืน
สิ่งนี้เรียกได้ว่าเป็นสนามพลังแบบเรโซแนนซ์ซ้อนเรโซแนนซ์ ที่ให้ผลทั้งการส่งคลื่น–ปรับสนาม–ประทับข้อมูล ได้ลึกยิ่งกว่าอุปกรณ์ใดอุปกรณ์เดียว
เปรียบเทียบ Mobius Coil และ Star Vortex Rodin Coil
เป็นการเปรียบระหว่าง สองเทคโนโลยีสนามพลังระดับสูง
ที่แม้มีเป้าหมายในการ ควบแน่นคลื่นพลังงาน และ ส่งผ่านความถี่เหมือนกัน
แต่มีหลักการทำงาน โครงสร้าง และผลลัพธ์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งในเชิง เรขาคณิต ฟิสิกส์ และพลังงาน
ตารางเปรียบเทียบ: Mobius Coil vs. Star Vortex Rodin Coil
มิติพลังงาน
โครงสร้างพื้นฐาน
รูปแบบสนาม
คลื่นที่เกิดขึ้น
ทิศทางพลังงาน
หลักการทำงาน
พลังงานที่เน้น
บทบาทในการส่งข้อมูล
การเรโซแนนซ์กับร่างกาย
การรับรู้ทางจิต
Mobius Coil
ลวดคู่พันสวนทางกันเป็นลูป
Scalar Standing Wave
ที่พุ่งออกจากศูนย์กลางแบบฟุ้งตรง
คลื่นตามยาว (Longitudinal Scalar) จากแรงหักล้างของคลื่นแม่เหล็กสวนทิศทาง
พุ่งออกตรงแนวแกน
(linear scalar propagation)
สร้างสนาม scalar โดย
ลบพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าแบบตรงข้ามทิศ
การหักล้างคลื่น → สร้างจุดนิ่งพลังงาน → สื่อสารเจตนา/ข้อมูลได้ชัดเจน
เหมาะสำหรับการส่งคลื่นตั้งใจ / พิมพ์ความถี่ / scalar wave transmission
เชื่อมโยงกับพลังงานตั้งใจ (intention), pineal gland, โหนดความคิด
คลื่นแบบ "เส้นตรง/ฟุ้งออก"
อาจรู้สึกเป็นพลังจุด/ทะลุทะลวง
Star Vortex Rodin Coil
ลวดพันตามรูปแบบเลข 9/6/3 ของ Marko Rodin
→ รูปดาวหรือวงคลื่นหมุนในพหุมิติ
Toroidal Vortex Flat Spiral ที่ไหลวนกลับ สู่จุดศูนย์กลางเป็นเกลียวสนามแบบหมุนวน
คลื่นหมุนวน (Spiraling Field)
ที่จัดระเบียบพลังงานแบบ Flow and Return
วนรอบศูนย์กลางแบบพลังตอร์รอยด์
(toroidal inward-outward spin)
สร้าง vortex field โดยการจัดระเบียบ
พลังงานในมิติเรขาคณิตตามหลักศักดิ์สิทธิ์
การหมุนวนแบบไร้สูญเสีย (non-dissipative spin) ด้วยโครงสร้างล้วน ๆ → สนามพลังที่รักษาตนเองได้ (self-sustaining)
เหมาะกับการหมุนวนพลังงาน, การวางจุดกึ่งกลาง ในโครงสร้างเพื่อการป้อนพลังต่อเนื่อง
เชื่อมโยงกับ field of life, zero-point coil,
ดีเอ็นเอ, ระบบพลังชีวิต
คลื่นแบบ “หมุนวน” รู้สึกนุ่ม–
โอบล้อม–กระตุ้นจุดตื่นรู้
สรุปภาพรวม :
คุณสมบัติ
คุณสมบัติ
ลักษณะการใช้งาน
สนามพลัง
พลังงานเน้น
Mobius Coil
หักล้างคลื่น EM → scalar
ส่งข้อมูล / ตั้งเจตนา
ฟุ้งตรงออกกลาง
เจตนา / scalar focus
Star Vortex Coil
กระตุ้นหมุนวน vortex
หมุน–ควบแน่นพลัง / เสริมพลังศูนย์กลาง
วนกลับศูนย์กลาง
zero-point / vortex harmonics
สรุป
Mobius Coil คือเครื่องมือที่แปลง “พลังงานคู่ตรงข้าม” ให้กลายเป็น “สนามพลังที่สงบนิ่งไร้ขั้ว”
เหมาะอย่างยิ่งในการส่งคลื่นตั้งใจ การเร่งการบำบัด และการประทับคลื่นในน้ำหรือพื้นที่พิเศษ
และเมื่อ Mobius Coil ถูกใช้งานร่วมกับ Tensor Ring หรือ Vortex Coil
จะเกิด “สนามพลังแบบซ้อนเรโซแนนซ์” ที่ทรงพลังที่สุด
สามารถใช้เป็นหัวใจหลักของ Healing Platform สมัยใหม่ในยุคแห่งจิตสำนึกพลังงานได้
บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ในเชิงการศึกษาและการเยียวยา
ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต
หากคุณรู้สึกว่าเนื้อหานี้มีประโยชน์ โปรดแชร์ลิงก์จากแหล่งต้นฉบับแทนการคัดลอก
Orgononic Harmonix Coils™
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพแบบองค์รวม การบำบัดด้วยพลังงาน และความถี่ ไม่มีเจตนาให้คำแนะนำหรือวินิจฉัยทางการแพทย์ใด ๆ เครื่องมือหรือเทคนิคด้านพลังงานเหล่านี้ มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาโรคการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของท่าน เป็นความรับผิดชอบของท่านเอง
