"คิดอะไรได้สิ่งนั้น"
ทุกสรรพสิ่งล้วนมีพลังชีวิตและจิตสำนึกของตนเอง ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่มันเป็นเช่นนั้นและเป็นสัจธรรม
อารมณ์ ความคิด ความรู้สึก คำพูด รอยขีดเขียน ภาพวาด ภาพถ่าย ล้วนมีชีวิตและรอยพลังงาน จักรวาลบันทึกข้อมูลพลังงานนั้นเกิดเป็นแรงกระตุ้น ตอบสนองต่อทุกความต้องการที่ออกอากาศออกไปสู่สนามพลังงานสากลอย่างใกล้ชิด และไม่มีข้อความใดตกหล่น
การสื่อสารกับจักรวาล หรือจิตวิญญาณเบื้องสูง คือการสื่อสารผ่านกระแสจิต ที่แปลจากความคิดความรู้สึกที่เข้มข้น ส่งสัญญาณแผ่ออกมาในรูปของคลื่นความถี่ ทั้งหมดที่เป็นเราก็คือคลื่นความถี่ที่เราสร้างมันขึ้นมาเอง ภายใต้พฤติกรรมซ้ำๆ คิดซ้ำๆ พูดซ้ำๆ อธิษฐานซ้ำๆ หรือการพร่ำบ่นซ้ำๆ ก็เช่นกัน ยิ่งทำซ้ำเท่าไหร่ รอยพลังงานยิ่งชัดมากเท่านั้น ชะตาชีวิตจึงดำเนินไปตามรอยทางซ้ำๆ ของเขาวงกตแห่งโชคชะตา
ชะตาชีวิตเกิดขึ้นจากคำสั่งของจิตใต้สำนึก ไม่ว่าจะรู้ตัว หรือไม่รู้ตัวก็ตาม ยิ่งคิดว่ายาก ก็ยิ่งเจอแต่เรื่องยากๆ ยิ่งเรื่องมากจู้จี้ยิ่งเจอแต่ปัญหา ยิ่งบ่นลำบากยิ่งดึงดูดความยากลำบาก ยิ่งให้ออกไปมากเท่าไหร่ยิ่งมีผู้ให้กลับมากเท่านั้น จึงเรียกว่า "ยิ่งให้ยิ่งได้" ยิ่งเมตตามากเท่าไหร่ ยิ่งดึงดูดความเมตตาเสมอกันเข้ามามากเท่านั้น ยิ่งอิจฉาริษยามากเท่าไหร่ยิ่งดึงดูดให้พบความไม่จริงใจ หักหลัง ยักยอกเข้ามาไม่สิ้นไม่สุด จักรวาลพร้อมเติมเต็มทุกสัญญาณข้อความที่คุณส่งออกไป เพราะอำนาจที่แท้จริงของจิตวิญญาณคือ " คิดอะไรได้สิ่งนั้น "
จักรวาลแห่งจิตใต้สำนึกเติมเต็มทุกความปรารถนาทั้งหมด ใช่ ความปรารถนาทั้งหมดจะเป็นจริง และมันก็ไม่ได้ต้องการความถูกต้องอะไรมากไปกว่านี้เลย ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม...