มิติโลกเนื้อหนัง คือการจับคู่ความถี่
ความถี่ของเรา คือ ความจริงของเรา ณ.ปัจจุบันขณะนั้น และสะท้อนกำทอนไปถึงอดีตและอนาคต
ความคิด อารมณ์ ความรู้สึก พฤติกรรมการกระทำ คือความถี่ที่สั่นสะเทือนแผ่ออกไปเชื่อมโยงกันไปทั้งหมดผ่านสนามคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เซลล์ อวัยวะทั้งหมด มีการสั่นสะเทือนในรูปแบบของตนเองอย่างเป็นเอกลักษณ์
เราทั้งหมด มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงของเรา ผ่านการสั่นสะเทือนของเรา หรือคลื่นความถี่ที่เราแผ่ออกไปจับคู่ความถี่ที่เหมือนกันเข้ามา เรียกว่าการดีงดูด คือกฎแห่งการเสกสร้าง ที่หลายคนเรียกว่า "ปาฎิหาริย์"
เมื่อเราโกรธ เกลียด อิจฉา เราสั่นสะเทือนที่คลื่นความถี่ต่ำ และแผ่กัมมันตภาพรังสีผ่านสนามแม่เหล็กไฟฟ้าออกไป จับคู่ กับความถี่ระดับต่ำเสมอกันเข้ามาสู่กระแสจิตกระแสชีวิต เกิดเป็นชะตาอันโชคร้ายนานับประการ ตับ ไต เกิดความถี่ผิดเพี้ยน ก่อเกิดโรคร้ายตามมา
เมื่อเรารัก และ เมตตา เราสั่นสะเทือนคลื่นความถี่สูงสุดออกไป ส่งกระแสออกไปสู่สนามแม่เหล็กไฟฟ้า และจับคู่เอาพลังงานระดับสูงเข้ามาสู่กระแสจิตพลังชีวิต เกิดโชคดีความสุขความอุดมสมบูรณ์แก่ชะตานานับประการ
พลังอำนาจของจิตวิญญาณระดับสูงอยู่เหนือมิติแห่งขั้ว ไม่มีช่องว่าง ระยะทาง และกาลเวลา เมื่อเรายกระดับการสั่นสะเทือนของเราด้วยการภาวนา อธิษฐาน เราได้ยกระดับจิตขึ้นไปสู่จิตวิญญาณเบื้องสูงซึ่งมีอำนาจในความเป็นได้ ทำได้ มีได้ ทั้งหมดตามระบบพลังงานแต่ละมิติ เราจึงจับคู่กับสิ่งนั้น เป็นสิ่งนั้น นั่นคืออำนาจของการภาวนา-อธิษฐาน ที่สามารถเปลี่ยนพลังงานอันเข้มข้นให้ปรากฏเป็นสสาร หรือฝันที่เป็นจริง E = mc2 (เล่นแร่แปรธาตุ)
ต้องการเปลี่ยนชีวิตไปเป็นแบบไหน สั่นสะเทือนคลื่นความคิดไปเป็นสิ่งนั้น จับคู่ความถี่กับสิ่งนั้นให้ได้ แล้วความสำเร็จ สมปรารถนาทั้งหมดก็จะปรากฏ
เราอยู่ในจักรวาลแห่งความถี่และการสั่นสะเทือน และทั้งหมดที่เป็นเราคือการ "จับคู่ความถี่" ในโลกแห่งขั้ว